"เศรษฐา"นำครม.เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณตน

คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ภายใต้การนำของ "เศรษฐา" เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนทำหน้าที่แล้ว ขั้นตอนต่อไปแถลงนโยบายต่อรัฐสภา วันที่ 11 ก.ย. แต่นายกฯไม่ปล่อยเวลาเสียงเปล่าเตรียมลงพื้นที่พูดคุยกับประชาชนที่ขอนแก่น อุดรธานีและหนองคาย วันที่ 8 ก.ย.นี้ ยืนยันตั้งใจทำงานเต็มที่นโยบายบางอย่างอาจทำได้เร็ว บางเรื่องทำได้ช้า แต่จะไม่มีข้ออ้างที่จะไม่ทำตามที่เคยประกาศไว้

วันที่ 5 กันยายน 2566  เวลาประมาณ 14.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งใหม่ จำนวน 34 คน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ 

        หลังถวายสัตย์ปฏิญาณ นายเศรษฐา  พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี แถลงข่าวที่ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ได้นำคณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณตนเรียบร้อยแล้ว โดยจะน้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติราชการต่อไป โดยยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลของประชาชนทุกคน รัฐมนตรีทุกคนจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่เอาความต้องการของประชาชนเป็นที่ตั้ง 

"วันที่ 8 กันยายนนี้ผมจะลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น อุดรธานีและหนองคาย เพื่อพูดคุยและรับฟังปัญหาของประชาชน และในวันที่ 11 กันยายน จะแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา"นายกรัฐมนตรี กล่าวและว่า รัฐบาลจะสร้างความชอบธรรมในการบริหารราชการแผ่นดินในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ด้วยการฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข็มแข็ง มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ภายใต้หลักการมีส่วนร่วมของประชาชน รัฐบาลจะสร้างโอกาสความเท่าเทียมให้กับประชาชน เพื่อให้ประเทศไทยเปลี่ยนผ่านไปสู่ประเทศที่มีความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนในอนาคต โดยอะไรที่ทำได้ก่อนเราจะทำทันที ส่วนการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกจะหารือกันอีกครั้งเพราะต้องให้ความสำคัญกับการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาก่อน

ผู้สื่อข่าวถามถึงนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท นายเศรษฐา กล่าวว่าา จะพยายามทำให้ได้โดยเร็วที่สุด คาดว่าไม่เกินไตรมาส 1 ในปี 2567 โดยจะแจกงวดเดียว หนเดียว  ส่วนนโยบายอื่นๆ รัฐมนตรีทุกคนจะพยายามผลักดันอย่างเต็มที่บางอย่างอาจทำได้เร็ว บางอย่างอาจทำได้ช้า แต่จะไม่เอามาเป็นข้ออ้างในการที่จะไม่ทำทั้งหมด ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในรัฐบาลนี้ว่ามีความตั้งใจจริง และตระหนักดีถึงปัญหาที่ประชาชนเผชิญอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องความแตกแยกทางความคิด ซึ่งรัฐบาลจะพยายามเดินไปข้างหน้าและจัดการกับปัญหาเหล่านี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด

ภาพประกอบจากเว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาลและเพจเฟสบุ๊คไทยคู่ฟ้า