ฺBann Top

d0bSwA8.jpeg

"เศรษฐา"ลั่นสี่ปีรัฐบาลมุ่งวางรากฐาน-โครงสร้างพื้นฐานใหม่


"เศรษฐา" แถลงนโยบายระบุสี่ปีข้างหน้าจะเป็นสี่ปีที่รัฐบาลจะมุ่งวางรากฐาน และโครงสร้างพื้นที่ใหม่ ลั่นจะดำเนินงานให้ประสบผลสำเร็จและเกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว  แบ่งการทำงานเป็นสี่ระยะ สั้น เร่งด่วน กลางและยาว ทั้งหมดอยู่บนพื้นฐานความโปร่งใสตรวจสอบได้

พรรคเพื่อไทยทำอินโฟกราฟฟิกสรุปคำแถลงนโยบายรัฐบาลที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แลงต่อที่ประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา "ระยะสั้น" เติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิตอลวอลเลต กระตุกเศรษฐกิจให้ประเทศตื่นขึ้นมาอีกครั้ง

"ระยะเร่งด่วน" แก้ปัญหาหนี้สิน ด้วยการพักหนี้เกษกร ประคองภาระหนี้สินผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอีลดภาระค่าพลังงาน ไฟฟ้า ก๊าซ น้ำมัน เร่งสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว มีรัฐธรรมนูญใหม่ที่เปนประชาธิปไตยมากขึ้น หารือแนวทางทำประชามติเพื่อให้ประชาชนทุกภาคมีส่วนร่วม ฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่น่าเชื่อถือ

ระยะกลาง ระยะยาว "สร้างรายได้" ด้วยการเปิดประตูการค้า เจรจาเขตการค้าเสรีหรือ FTA ยกระดับพาสปอร์ตไทย พัฒนาเศรษฐกิจใหม่เน้นอุตสาหกรรมสีเขียว อุตสาหกรรมใช้เทคโนโยยีขั้นสูง ส่งเสริมสาร์ตอัพ และลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของประเทศ สร้างรายได้เกษรกรรม การปะมง ปศุสัตว์ "ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้"

"สร้างและขยายโอกาส"  ประชาชนมีสิทธิในที่ดินพิจารณาเอกสารสิทธิให้เป็นโฉนด เปลี่ยนรัฐที่เต็มไปด้วยกฎระเบียบให้เป็นผู้สนับสนุน ผลักดันรัฐบาลดิจิทัล ส่งเสริม 1 ครอบครัว 1 ซอฟพาวเว่อร์ ปฏิรูปการศึกษาส่งเสริมงานวิจัยและการเรียนรู้ตลอดชีวิต

"สร้างคุณภาพชีวิต"  พัฒนาหน่ยงานวามมั่นคง กองทัพ ให้มีความทันสมัย เช่น เปลี่ยนรูปแบบการเกณฑ์ทหารให้เป็นแบบสมัครใจ และลดกำลังพลนายทหารสัญญาบัตรและนายทหารระดับสูง ปราบปรามยาเสพติด ยึดทรัพย์ผู้ผลิต ผู้ค้า ปรับผู้เสพเป็นผู้ป่วย ดูแลสิ่งแวดล้อมสร้างอากาศสะอาดสำหรับทุกคน ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค ดูแลคนทุกกลุ่มด้วย สวัสดิการโดยรัฐ ผลักดันกฎหมายสนับสนุนสิทธิและความเท่าเทียม


                "ในการบริหารค่าใช้จ่ายเพื่อดำเนินนโยบายนั้น รัฐบาลจะดำเนินการอย่างมีเป้าหมาย ทั้งในด้านการเจริญเติบโต การลดความเหลื่อมล้ำและการรักษาเสถียรภาพ ให้ความสำคัญกับกรอบวินัยการเงินการคลังของประเทศอย่างเคร่งครัด และให้ความสำคัญกับเสถียรภาพทางการเงินการคลังของประเทศในด้านการใช้จ่าย รัฐบาลจะดำเนินการใช้จ่ายให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสม โดยพิจารณาใช้จ่ายจากแหล่งเงินงบประมาณและเงินนอกงบประมาณ ทั้งในส่วนของเงินกู้และการให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการลงทุนเพื่อการพัฒนาประเทศ รวมทั้งพิจารณาใช้เครื่องมือทางการเงินอื่นๆ ในการสนับสนุนการดำเนินนโยบายเพื่อลดภาระการลงทุนจากงบประมาณแผ่นดินและการกู้เงิน ขณะเดียวกันรัฐบาลตระหนักถึงข้อจำกัดด้านรายได้ โดยเฉพาะรายได้จากภาษีของประเทศ รัฐบาลจะเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีควบคู่ไปกับการเร่งส่งเสริมการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ประชาชน และสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเม็ดเงินดังกล่าวจะกลับเข้าสู่ระบบภาษี ที่จะนำไปใช้ในการดำเนินนโยบายต่อไปได้" นายกรัฐมนตรี กล่าวและว่า สี่ปีข้างหน้าจะเป็นสี่ปีที่รัฐบาลจะวางรากฐานและโครงสร้างพื้นฐานใหม่ให้กับประเทศโดยยึดหลักนิติธรรมที่เข้มแข็งและน่าเชื่อถือ รัฐบาลมีความมุ่งมั่น ที่จะดำเนินงานให้ประสบผลสำเร็จและเกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง โปร่งใสและตรวจสอบได้ สอดคล้องกับกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในกรณี การดำเนินงานที่กระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คุณภาพชีวิต รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน

ภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ค :  เศรษฐา ทวีสิน - Srettha Thavisin และ พรรคเพื่อไทย

.