ฺBann Top

d0bSwA8.jpeg

คาดวันแม่ปีนี้เงินสะพัดหมื่นล้าน


ม.หอการค้าโพลพบการใช้จ่ายช่วงวันแม่ปีนี้ยังคึกคักในระดับเดียวกับปีที่แล้ว แม้ยังมีความกังวลเรื่องเศรษฐกิจ คาดจะมีเงินสะพัด 10,632.57 ล้านบาท ลดลง 2.3% เหตุหลักมาจาก ใช้จ่ายไปในช่วงวันหยุดยาว 6 วันก่อนหน้านี้ไปเยอะแล้ว

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์ฯ และอาจารย์วาทิตร รักษ์ธรรม ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์ฯ ร่วมกันแถลงผลสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 1,250 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่  2-5 สิงหาคม 2566  หัวข้อ "วันแม่" จะมีทัศนคติและการใช้จ่ายอย่างไร ในประเด็นความเปลี่ยนแปลงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับบุพการีเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา พบว่า 67.2%   ไม่เปลี่ยนแปลง เพิ่มขึ้น 24.4%  ลดลง 8.4%

งบประมาณการใช้จ่ายเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา พบว่า ไม่เปลี่ยนแปลง 42.7%  เพิ่มขึ้น 20.6% เนื่องจากเป็นวันพิเศษ คาดว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้น มีรายได้เพิ่มข้น ลดลง 36.8% เนื่องจากต้องประหยัดมากขึ้น มีภารค่าใช้จ่ายมากขึ้น เป็นหนี้มากขึ้น เศรษฐกิจยังไม่ดี ไม่มีความมั่นคงทางรายได้ ยังไม่พร้อมใช้จ่ายในตอนนี้ มีรายได้ลดลง

สำหรับความกังวลเกี่ยวกับประเด็นต่างๆนั้น กลุ่มตัวอย่างกังวลเรื่องภาระค่าใช้จ่ายมากที่สุด 53.4% ตามมาด้วยความมั่นคงในอาชีพ 52.5% ความมั่นคงทางการเงิน รายได้ 52.3% ความปลอดภัยในการใช้ชีวิตประจำวัน 50.5 % ที่เป็นความกังวลเรื่องค่าเล่าเรียน การหลอกลวงออนไลน์  ภาระหนี้สิน ปัญหาสิ่งแวดล้อม และโรคภัยไข้เจ็บ

ส่วนกิจกรรมที่จะทำในวันแม่ อันดับหนึ่งคือพาแม่ไปทำบุญ ตามมาด้วยพาแม่ไปทานข้าว ไปเที่ยวต่างจังหวัดไม่ค้างคืน ไปทำกิจกรรมอื่นนอกบ้าน ทำกิจกรรมร่วมกันในบ้าน พาไปเที่ยวต่างจังหวัดค้างคืน พาไปสปา นวด ไปหาแม่ที่บ้าน อยู่บ้านไม่ได้ไปไหน และร่วมกันทำกิจกรรมออื่นๆที่ไม่เกี่ยวกับวันแม่

ทั้งนี้คาดการณ์ว่า ช่วงวันแม่ปีนี้ จะมีเงินสะพัด 10,632.57 ล้านบาท ลดลง 2.3% เหตุหลักมาจาก ใช้จ่ายไปในช่วงวันหยุดยาว 6 วัน ก่อนหน้านี้ไปแล้ว บางทีถ้าเศรษฐกิจดี ลูกจะให้เงินสดมากขึ้น จะให้ของขวัญต่างๆ มากขึ้น แต่ว่าปีนี้เน้นในเรื่องของเวชภัณฑ์ อาหารเสริม ประกันชีวิต ที่ล้วนเป็นของมีประโยชน์กับสุขภาพ เป็นจุดสังเกตให้เรารู้สึกว่า การจับจ่ายใช้สอย มีความระมัดระวัง