ลือ..กระทรวงการคลังเตรียมเสนอรัฐบาลชุดใหม่รื้อการใช้จ่ายงบประมาณเกี่ยวกับสวัสดิการทางสังคม เพื่อลดภาระงบประมาณและลดความซ้ำซ้อน โดยเฉพาะเรื่องเบี้ยคนชราที่ควรจ่ายแบบขั้นบันไดและจ่ายให้เฉพาะผู้ที่ถือบัตรคนจนเท่านั้น
ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเกิดกระแสข่าวลือผ่านสื่อหลายสำนักที่เสนอข่าวไปในทิศทางเดียวกันโดยอ้างแหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอรัฐบาลใหม่พิจารณาแนวทางลดรายจ่ายเพื่อดูแลฐานะการคลังให้มีความยั่งยืน หนึ่งในแนวทางที่จะนำเสนอ คือ ปรับลดรายจ่ายสวัสดิการ โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีความซ้ำซ้อน หรือ ลดกลุ่มเป้าหมายลง เช่น การจ่ายเงินเบี้ยผู้สูงอายุ และการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ซึ่งถือว่าเป็นไปตามแนวทางใช้นโยบายการคลังที่เจาะจงกลุ่มเป้าหมาย เพื่อลดภาระทางการคลัง ที่หลายประเทศทั่วโลกต่างใช้แนวทางนี้เพื่อลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นและลดความซ้ำซ้อน
สำหรับสวัสดิการที่รัฐบาลเข้าไปดูแลกลุ่มเป้าหมายที่มองว่ามีความซ้ำซ้อน อาทิ สวัสดิการดูแลผู้มีรายได้น้อยซึ่งมีอยู่หลายโครงการ เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
โครงการเงินสงเคราะห์ครอบครัว กองทุนสวัสดิการชุมชน โครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัย โครงการบ้านมั่นคง โครงการสงเคราะห์ผู้ตกทุกข์ได้ยากกลับภูมิลำเนาเป็นต้น
โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรตรวจความถูกต้องความซ้ำซ้อนของสวัสดิการและจำกัดวงเงินการช่วยเหลือเฉพาะผู้ที่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเท่านั้น ซึ่งจะช่วยลดการใช้จ่ายงบประมาณลงไปได้มาก
นอกจากนี้ ยังมีสวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุที่มีความซ้ำซ้อน ซึ่งแนวทางการดูแลผู้สูงอายุในปัจจุบันนั้น มีอยู่หลายโครงการ เช่น การจ่ายเบี้ยผู้สูงอายุแบบขั้นบันได
การจ่ายเงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุในภาวะยากลำบาก เงินสงเคราะห์ในการจัดทำศพ กองทุนผู้สูงอายุ การดูแลระยะยาวสำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง เป็นต้น โดยเฉพาะเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันได หากจำกัดวงเงินการช่วยเหลือเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อยที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะทำให้สามารถประหยัดงบประมาณไปได้มาก ซึ่งกระทรวงการคลังได้กำหนดทางเลือกจัดสรรเบี้ยผู้สูงอายุเฉพาะผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไว้หลายแนวทาง เช่น การจ่ายเบี้ยผู้สูงอายุถ้วนหน้ารายละ 3,000 บาท (ตามนโยบายพรรคการเมืองที่หาเสียงในปัจจุบัน) กรณีนี้ รัฐจะมีภาระรายจ่ายต่อปีเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว อยู่ที่เกือบ 2 แสนล้านบาท แต่หากใช้แนวทางการจ่ายเบี้ยผู้สูงอายุอัตราเดิมแบบขั้นบันไดที่ 600,700,800,1,000 บาท รัฐจะมีภาระรายจ่ายต่อปีที่ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท หรือ ลดลงราว 50% จากรายจ่ายดังกล่าวในปัจจุบัน
ผู้สูงอายุที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในปัจจุบันมีอยู่จำนวนประมาณ 5 ล้านคน ถ้าใช้แนวทางจ่ายเบี้ยผู้สูงอายุถ้วนหน้าแบบขั้นบันได รัฐมีภาระรายจ่ายอยู่ที่ประมาณ 8 หมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งในปีงบประมาณ 2567 รัฐบาลตั้งวงเงินงบประมาณสำหรับจ่ายเบี้ยผู้สูงอายุประมาณ 9 หมื่นล้านบาท ขณะที่ ก่อนหน้านี้ วงเงินรายจ่ายดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 5 หมื่นล้านบาทต่อปีเท่านั้น
ทั้งนี้กระแสข่าวดังกล่าวยังไม่ด้รับการยืนยันหรือปฏิเสธจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด
ภาพประกอบจากสำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ : https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220905140034278